ทาส 3

" เหวอ...! ซวยโคตรเลยดิมึง " คันคุโร่

" มึงไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวกูจองโรงให้ " ฮิมูระ ไม่พูดเปล่า เอาโทรศัพท์โทรจองด้วย แหม...

" เพื่อนไม่ได้ไปตายนะเว้ย! แค่เกือบเท่านั้นแหละ จองเตียงโรงบาลก็พอ " ฮาระ

" เออๆ กูเห็นด้วยกับฮาระ พ่อมึงเรียกกี่โมงนะ? " 

มากิถามผม พลางกดหาเบอร์โรงบาลเตรียมพร้อมโทร เพื่อนมันรักผมมากครับ! รักมากจนอยากตายด้วยมือผม!!!

" หุบปากไปเลย ความคิดพวกมึงนี่ช่วยกูได้เยอะ! "

พูดจบผมก็เดินออกมาเลย ไม่กงไม่กินมันล่ะแม่ง! ทำอารมณ์เสียหมดเลย

" เฮ้ย! "

ผมหันไปทางเรียก...ฮิมูระ ตามมาเพื่อไรวะ มาแขวะอีกสิ ผมยืนสองมือล้วงกระเป๋ามองมัน

" มึงกินข้าวไปนิดเดียวเองนะ เอ้า! "

" ใจ "

มันโยนขนมปังมาให้ผม ผมรับมาและเดินไปนั่งใต้ต้นไม้ พลางแกะขนมปังกิน โดยมีฮิมูระนั่งข้างๆ

" กูขอโทษนา...ที่แหย่มึงอะ พวกนั้นมันก็ฝากมาขอโทษด้วย พวกข้าแค่ไม่อยากให้เอ็งเครียด "

" เออ...กูรู้ "

" รู้แล้วเป็นเงี้ย? "

" กูรู้ แต่กูหงุดหงิด แค่นี้กูก็เครียดพอล่ะ "

" มันอาจไม่แย่อย่างที่มึงคิดหรอก "

" กูก็หวังอย่างนั้น "

แล้วผมก็นั่งกินต่ออย่างเงียบๆ ฮินะโทรมา? ผมหยิบโทรศัพท์มาดู ก่อนจะวางมันลงอย่างไม่สนใจ ฮิมูระก็ไม่ถามอะไร

นี่แหละข้อดีของเพื่อนผม มันปลอบใจใครไม่ค่อยเป็น แต่มันก็จะคอยอยู่ข้างๆเสมอ เพื่อให้รู้ว่า 'มึงยังมีกู' และข้อดีนี้แหละที่ทำให้มันเป็นเพื่อนที่ผมรักที่สุด

เมื่อคาบสุดท้ายจบ ผมเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้านไปหาพ่อ วันนี้ฮินะโทรแล้วโทรอีก ส่งข้อความมาถามก็ตั้งหลายครั้ง จนผมลำคาญ! แต่ก็ปล่อยไป ผ่านเรื่องนี้ไปก่อน ค่อยว่ากัน

" เดี๋ยวกูไปส่ง และเดี๋ยวรอไปทำงานด้วยเลย "

" อืม.... "

" เฮ้ย! อย่างคิดมากนะเว้ย! " คันคุโร่

" ใช่ มันต้องไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอก " มากิ

" แต่ถึงยังไง มึงยังมีพวกกู จำไว้! " ฮาระ

แล้วฮาระก็ตบไหล่ผมเบาๆ ผมก็พยักหน้าตอบ ก่อนเดินออกไปกับฮิมูระ เหมือนกำลังจะไปเผชิญกับอะไรที่ร้ายกาจมากๆ อะไรอย่างนั้นเลย

ไม่นานก็มาถึงบ้าน ผมเดินเข้าไปหาพ่อที่นั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าทีวี ส่วนฮิมูระรออยู่ข้างนอก

ผมเดินเข้าไปหาพ่อด้วยหัวใจที่หวิวๆ มันใช่เรื่องปรกติเลยที่พ่อเรียกผมมาคุยอย่างนี้ เค้าเกลียดผมจะตาย เพราะตั้งแต่แม่จากไป เค้าก็รับเรื่องนั้นไม่ได้ เลยโบ้ยว่าผมเป็นคนผิดมาโดยตลอดที่ผมไม่ยอมห้ามแม่ในวันนั้น.....

วันนั้นแม่ผมไปตลาดเพื่อซื้อกับข้าวเช่นทุกวัน แต่วันนี้ฝนตกเมื่อจึงต้องขับรถไป แต่แม่ขับรถไม่แข็งและผมก็ไม่ทันห้ามแม่ เพราะผมกำลังทะเลาะกับแฟนอยู่....

ถ้าวันนั้นผมห้ามแม่หรือเป็นคนขับรถให้แม่ แม่คงไม่ต้องจากผมไปแบบไม่มีวันหวน........" มาแล้วหรอ "

" ครับ "

ถ้าไม่มาพ่อจะเห็นผมมั้ย?
ผมเดินไปนั่งข้างกับพ่อ

" เอ่อ...มีอะไรหรือเปล่าครับ? "

" ฉันเป็นพ่อแกใช่มั้ย? "

" ครับ "

ถ้าไม่ใช่แล้วพ่อเป็นใครล่ะครับแหม่...

" เป็นผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูแกมา และก็เป็นคนที่ทำให้แกเกิดมาด้วยใช่มั้ย? "

ผมพยักหน้า อะไรของเค้านะแล้วที่ผมเกิดมานี่พ่อตั้งใจ หรือกำลังมันกับแม่ แล้ว ตู้ม...!!! กลายเป็นซาโตชิในปัจจุบัน!

" งั้นแกก็ต้องตอบแทนบุญคุณฉันถูกมั้ย? "

ผมก็พยักหน้าอีก มาแบบนี้...ต้องเป็นเรื่องซวยบัดซบแน่ๆ! เพราะปกติพ่อผมไม่ใช่พวกพร่ามอะไรอย่างนี้หรอกครับ

" งั้นแกช่วยใช้หนี้แทนฉันทีได้ไหม แค่แกยอมไปอยู่รับใช้คนที่ฉันติดหนี้ด้วย เค้าก็จะยกหนี้ทั้งหมดให้ฉัน! "

" ห้ะ!!!! อะไรกัน!!!! "

" ฉันเป็นพ่อแกนะ แล้วฉันก็เดือดร้อน มันจะเอาชิวิตฉัน แต่ถ้าฉันมีสิ่งตอบแทนที่มีค่าเท่าๆกัน เค้าก็จะปล่อยฉัน!! "

" โดยเอาชีวิตผมงั้นหรอห้ะ!!! "

ผมตะโกนใส่หน้าพ่อทั้งน้ำตา เค้าเห็นชีวิตลูกตัวเองเป็นอะไร......

ฮิมูระเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกก็รีบเค้ามาทันที เพราะเป็นห่วงซาโตชิ แต่ก็ได้แต่ยืนมองห่างๆเท่านั้น เรื่องของพ่อลูกจู่ๆจะเข้าไปเลยก็ใช่เรื่อง แต่ถ้าพ่อทำร้ายซาโตชิล่ะก็...นั่นอีกเรื่อง!!

" อะไรกัน...หนี้อะไรกัน? "

ผมทรุดลงไปที่พื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ดิ้นรนด้วยเองมาตลอด แต่ต้องจบแบบนี้หรอ?

" ฉันติดหนี้ที่คาสิโนแห่งหนึ่ง ร่วมสิบล้านเยน แกมีปัญญาหาเงินมาใช้เค้ามั้ยล่ะ!!! "

" ทะ...ทำไมมันมากมายอย่างนั้น....? "

" จะไปรู้เร้อะ! ติดไว้นานทั้งดอกทั้งต้นมันก็บานตะไทสิวะ!! พรุ่งนี้เค้าจะมารับตัวมึง! กูเป็นพ่อมึง เป็นคนทำให้มึงเกิดมา กูจะทำอะไรกับชีวิตมึงก็ย่อมได้!!! "

แล้วพ่อก็เดินออกจากบ้านไป... ผมได้แต่นั่งร้องไห้อย่างหมดหนทาง ถ้าผมหนีพ่อก็ตาย! ผมทำไม่ได้

" หนีไปกับกูเหอะ! "

" แล้วพ่อกูล่ะ...? "

" พ่อมึงเป็นคนสร้างปัญหา พ่อมึงก็ต้องแก้เองสิวะ! "

" ด้วยชีวิตหรอวะ "

" เออ!! "

" ไม่ๆ!! กูทำไม่ได้ กูทิ้งให้เค้าตายไม่ได้ เค้าเป็นพ่อกู กะ...กูจะทำตามที่เค้าสั่ง! "

" โว้ย!!!!! "

แล้วฮิมูระ ก็เดินไปต่อยกำแพงจนมือแตก ส่วนผมได้แต่นั่งจมกองน้ำตาอยู่ตรงนั้น.....
เมื่อผมอารมณ์เย็นขึ้นแล้วจึงออกไปทำงานกับฮิมูระ

" มึงไม่ต้องไปทำงานก็ได้มั้ง พักผ่อนสมองเถอะวะ! "

" ไม่เอา กูอยู่เฉยๆกูก็เครียด "

" ฮิมูระ... "

" หือ...? "

" มึงว่า พวกนั้นจะฆ่ากูมั้ย? "

" บ้าน่ะ เค้าไม่ฆ่ามึงหรอก เพราะมันคงไม่คุ้มกับหนี้ที่พ่อสร้างไว้มากขนาดนั่น "

" แล้วมึงว่าเค้าจะทำอะไรกู "

" คงเอาอวัยวะมึงไปขายมั้ง ปอดข้างหนึ่งได้เป็นสิบๆล้านเยนเหมือนกันนา.... "

" นั่นสิ...ถ้าเป็นงั้นคงไม่ขาดทุน... "

แล้วผมก็นั่งซ้อนมอไซเงียบๆต่อไป ผมไม่มีความคิดอะไรในหัวเลย ไม่กลัวอะไรที่จะเกิดขึ้นทั้งนั้น แต่...
ผมเสียใจ ที่พ่อทำกับผมแบบนี้.....

" พ่อเค้าไม่รักกูเลยหรอวะ...ฮึก! "

ผมพูดพร้อมกับสะอื้นนิดหน่อย แต่ฮิมูระมันไม่ได้ตอบอะไรผม มันคงรู้ล่ะนะ ว่านั่นมันไม่ใช่คำถาม...มันเป็นแค่สิ่งที่อยากพูดเท่านั้น!

" อ่าว..! ทำไมมากันเร็วจังล่ะวันนี้ นี่เพิ่งห้าโมงเองน้อ "

" พี่มาโตะมาก่อนพวกผมอีกไม่ใช่หรอครับ "

" อ่อ...วันนี่พี่ควงน่ะ ฮิเดะทะเลาะกับแฟนพี่เลยมาแทนมัน. "

" อ้อ...ทะเลาะกันทั้งปี "

พี่มาโตะเอ่ยทักพวกเราที่มาร้านเร็วกว่าปกติ ฮิมูระเลยตอบแทนผมที่เอาแต่เงียบ ตาผมยังคงช้ำเพราะร้องไห้

ฮิมูระเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างในสต๊อก มันเป็นที่ของพนักงานน่ะครับ พลางกวักมือเรียกผมให้ไปกับมัน

" นี่ซาโตชิ วันนี้เราเป็นอะไรหือ ทำไมตาช้ำขนาดนั่น อกหักหรือไง "

พี่มาโตะเดินเข้ามาถาม ทั้งๆที่ลูกค้าเต็มร้านไปหมด นี่พี่สนใจลูกค้าก่อนเถอะครับ ผมสงสารเพื่อนพี่ที่โดนพี่กินแรง 

" เปล่าครับ ถ้าอกหักผมไม่เป็นอย่างนี้หรอก พี่ก็รู้นี่ "

" ก็เพราะรู้น่ะสิ ถึงเป็นห่วงที่เราเป็นอย่างนี้ "

" มึงก็บอกพี่เค้าไปสิ งั้นกูบอกเอง...คืองี้พี่ พ่อซาโตชิเอามันไปใช้หนี้พนันน่ะ!! "

" หา!!! "

แล้วฮิมูระก็เล่าเรื่องที่เจอกับผมมาให้พี่มาโตะฟัง พอพี่เค้ารู้เรื่องทั้งหมด ก็เครียดๆไป แต่ก็คงเหมือนกับฮิมูระที่ชวนให้หนี แต่แน่นอน คำตอบของผมยังคงเป็นเดิม

" แล้วพรุ่งนี้ ไอ้พวกเวร กับพ่อเฮงซวยนั้นจะมาเมื่อไหร่? "

" ไม่รู้ครับ แต่เลิกด่าพ่อผมทีเถอะครับ "

" ทำไมต้องเลิกด้วยวะ พี่มาโตะเค้าก็พูดถูก "

" แต่นั่น เค้าก็เป็นพ่อกูนะ! พ่อก็คือพ่อ เลวยังไงก็พ่อกู!!! "

ผมตะคอกฮิมูระทั้งน้ำตา ทั้งสองก็ได้แต่มองผมอย่างไร้หนทางช่วย

" ซาโตชิรักพ่ออะดีแล้ว แต่ก็ควรแยกแยะบ้าง แล้วถ้าแม่ซาโตชิยังอยู่เค้าจะปล่อยให้เราไปหรอ พ่อแม่เค้าต้องเห็นเราสำคัญสิ แต่นี้มันไม่ใช่! พ่อนายไม่ควรเป็นพ่อคนเสียด้วยซ้ำ!!! "

พี่มาโตะสวนผมกลับก่อนเดินออกไปทำงานต่อ พี่เค้าพูดถูก แต่...ผมก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดี ผมทิ้งพ่อไม่ลง ผมทำไม่ได้!!" เฮ้ยคืนนี้ไปนอนบ้านกูมะ? "

" ไม่วะ! "

ฮิมูระถามผมขณะเก็บของเตรียมกลับบ้านหลังเลิกงาน มันคงอยากให้ผมผ่อนคลายล่ะมั้ง เพราะกลับบ้านผมก็คงเครียดหนัก แต่ผมอยากนอนที่ห้องตัวเองนี่นา....

ผมเดินขึ้นห้องมา ระหว่างที่เข้ามาในบ้านผมไม่เห็นพ่อเลย ไม่หลับก็คงยังไม่กลับล่ะนะ

ผมนั่งบนเตียง ดึงผ้าห่มไหมพรมที่แม่ทำให้ผมขึ้นมากอด หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจค่อยๆร่วงจากดวงตาผม

หนุ่มน้อยนั่งร้องไห้อยู่ที่เตียงโดยที่มีผ้าห่มผืนโปรดอยู่ไม่ห่าง ก่อนจะผล๊อยหลับไปทั้งน้ำตา

ทุกอย่าง...อยู่ในสายตาของซาตานหนุ่มตลอดเวลา

" ไวท์ติดใจอะไรเจ้ามนุษย์ที่แสนจะอ่อนแอ และเปราะบางอย่างนี้ "

" ก็แค่นึกสนุกน่ะแบล๊ค ไม่มีอะไรพิเศษหรอก! "

จู่ๆเสียงของผู้ที่ถูกสงสัยก็เอ่ยขึ้นจากด้านหลังตน ไวท์เดินขึ้นมายืนข้างๆพี่ชายตนเอง ทอดสายตาไปที่เด็กหนุ่มผู้อ่อนแ

แบล๊คมองน้องชายตนเองด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก สำหรับเขาแล้วเค้าไม่สนอะไรทั้งนั้น

" นี่...! "

" อารัยอ่อ~~~ "

" ไวท์ไม่สนแบล๊คแล้วงั้นสินะ! "

" หวา...ทำไมพูดงั้นล่ะ แบล๊คอะที่หนึ่งของเค้าอยู่แล้ว เจ้าเนี่ยก็แค่....ของเล่น! "

ไวท์รีบคว้าเอวแบล๊คมากอด ออดอ้อนราวกับคู่รักที่กำลังง้องอนกันอยู่ แบล๊คเอื้อมมือไปลูบหัวน้องชายตนเอง ยิ้มน้อยๆกับความน่ารักขี้อ้อน

" อย่าเล่นเผลินจนลืมแบล๊คล่ะ "

" แน่นอน~~~ "

อาทิตย์ทอแสงประกายรับอรุณแรกของวัน....
ผมเดินลงมาข้างล่างเพื่อจะไปเรียน แต่ต้องชะงั้กเท้าเมื่อ....

ผมห็นพ่อนั่งคุกเข่าตรงหน้าชายชุดดำคนหนึ่ง โดยด้านหลังเขาคนนั้นยังมีชายชุดดำอีกสี่คน คงเป็นลูกน้องละมั้ง

" นั่นหรอ...ซาโตชิ! "

" ครับ นั่นล่ะครับ "

" อืม...น่าตาดีไม่เลว ยังงี้คงพอหาเงินที่นายติดเราไว้มาคืนได้ไม่ยาก แต่ท่าจะเปลืองตัว!! "

ห้ะ!! หมายความว่าไง 'เปลืองตัว!' นี่พวกมันต้องการเอาผมไปทำอะไรกันแน่นะ

" มานั่งนี่สิลูก "

" ตะ...แต่ผมมีเรียนนะฮะ "

" บอกมานั่งนี่! "

พ่อตะคอก! ผมจึงจำใจเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าพวกมัน มันเอามือหยาบมาเชยคางผมขึ้น มองหน้าผมราวกับไฮยีน่าได้เยื่อ ยังไงยังงั้นเลยให้ตายสิ!

" วันนี้หนูคงไม่ได้เรียนแล้วล่ะ เจ้านายพี่เค้าอยากได้ของเล่นใหม่พอดี "แล้วเจ้าพวกชุดดำข้างหลังก็เดินมาลากผมขึ้นรถสำคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะกลัวพ่อจะโดนลูกหลง

เลยต้องเดินไปตามแรงที่พวกมันลา

มันยัดผมไว้ที่เบาะหลังก่อนจะมีไอ้เวรนั่นเข้ามานั่งขนาบข้างผม

" ไปถึงแล้วต้องบริการท่านดีๆล่ะ ถ้าไม่อยากตาย อ้อ! อีกอย่าง...ถ้าบริการถูกใจอาจจะได้ตังเยอะก็ได้นา....ได้เอาเงินพวกนั้นมาไถ่ตัวเองไง ฮ่าๆๆ! "

หนอย...อยากต่อยปากแม่งชิบ!! ปากวอนทีนจริงไอ้เวรเอ้ย!!!

ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี จะหาทางออกยังไง ตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก มีแค่ความเสียใจเท่านั้น

รถมุ่งหน้าไปย่านๆหนึ่ง ซึ่งมีแต่บ้านเอ...ไม่สิ คฤหาสมากกว่า ย่านนี้คงเป็นย่านคนรวยอภิมหารวย ไรงี้ชัวเลย ถ้าเป็นอารมณ์ปกติผมคงตื่นเต้นน่าดู แต่นี้ไม่ใช่น่ะสิ แถมไม่ได้มาเที่ยวด้วย แต่มาเป็น... 'ทาส!' ต่างหาก

ไม่นานนักรถก็เลี้ยวเข้ามาที่คฤหาสหลังหนึ่ง เป็นทรงยุโรปที่มีกลิ่นอายโรมันนิดๆ ถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวดำทอง อย่างสวยสง่า ตามมุมเสาต่างๆ ถูกประดับด้วยรูปปั้น 'ซาตาน!' เอ่อ...ดูน่ากลัวแหะ!

ถึงผมจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่ที่นี่กลับให้อารมณ์หลอนๆเย็นยะเยือกยังไงก็ไม่รู้ นึกถึงคนที่ผมต้องไปรับใช้เค้า ต้องเป็นแบบ...เถื่อน โหด โฉด ชั่ว ชัวเลย! พวกลัทธิบูชาซาตานไรงี้ แล้วจะรอดปลอดภัยออกไปไหมเนี่ยกู!!!

" อะ...! ลงมาได้แล้ว "

" คะ...ครับ "

เว้ย! กูลงเองดีๆได้เว้ยไม่ต้องกระชาก!! ก็ไอ้เวรนั่นแม่งสั่งให้ผมลง ผมก็ลงตามมันสั่งแล้วนะ ยังกระชากแขนผมอีก เจ็บนะเนี่ย แขนหักใครรับผิดชอบวะ!

มันลากผมเข้าไปในตัวคฤหาส ก่อนจะผลักผมลงกับพื้นตรงหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผมไม่ทันได้มองหน้า เพราะไอ่เวรนั่นมันกดหัวผมไว้

" มาแล้วครับนายท่าน พ่อของเจ้านี้ ส่งให้เจ้านี้มาใช้หนี้แทนครับ "

" อืม...ชื่ออะไร? "

" โอ้ย! อะ...ผมชื่อซาโตชิ นาริมิยะ ซาโตชิครับ "

ไอ้เวรมันกระชากผมของผมให้เงยหน้าไปตอบนายมัน เจ็บนะไอ้แสส..!!

ผมบ่นกระปอดกระแปดในใจ ก่อนที่สายตาผมจะถูกตรึงอยู่ที่ผู้ชายตรงหน้า....!

เขาคือผู้ชายขี้แยที่ร้องเรียกหาคนชื่อแบล๊ค ที่ผมช่วยเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน....แต่? ผมกับรู้สึกว่าไม่ใช่ไงก็ไม่รู้สิ บรรยากาศรอบตัวเค้ามันต่างกับคนที่ช่วยเลยนี่นา.... มันดูทะมึนๆ น่ากลัว

เอ....เหมือนคนที่เจอในผับ ที่มาถามทางเลยแหะ! มิน่าตอนนั้นที่เจออยู่ริมทางถึงว่าหน้าคุ้นๆ

" เอาไปขังไว้ในห้อง สึจิพาไปที "

" ครับนายท่าน! "

แล้วมันก็ลากผมไปที่ไหนก็ไม่รู้ ทำไมเค้าทำเป็นเหมือนไม่รู้จักผมเลยนะ เฮ้อ....ช่างเหอะ หวังว่าชีวิตคงไม่บัดซบไปกว่านี้อะนะ


***********************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น