โลกสีดำ 7

" คิง...... "
เสียงหวานเอ่ยแผ่ว ร่างบางมองชายที่นอนอยู่บนที่นอนนิ่ง

บนใบหน้าที่หล่อเหลา...มีผ้าพันบริเวณดวงตาเอาไว้ ร่างบางเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา...ใบหน้าของชายที่เค้าปรารถนาที่จะเห็น...แต่ทำไมถึงต้องมีผ้าพันตรงดวงตาด้วยล่ะ? โอราฟขยับร่างออกห่างจากคิงหลับไม่รู้เรื่อง...น้ำตาที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไหล...ไหลอาบแก้มนวล.....

" นี่มัน....? "
โอราฟที่ประสาทสัมผัสไว..รีบหันไปถามสาวใช้ที่เปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบที่สุด!

" คือ... "
สาวใช้ถึงกับพูดไม่ออก...เธอไม่รู้จะพูดอย่างไรจริงๆ

" ผมถาม...ผมต้องการคำตอบ ไม่ใช่มาคะๆคือๆ! "
โอราฟฉุนเฉียวเอ็ดสาวใช้เสียงแผ่ว...เพราะกลัวรบกวน

" ดิฉันไม่ทราบค่ะ... "
เมื่อเลี่ยงไม่ได้..เธอจึงโกหก

" งั้นไปตามคุณแม่เดี๋ยวนี้!!! "

" ค่ะ... "
แล้วสาวใช้ก็รีบออกไปทันที โดยทิ้งข้าวของที่จะนำมาเช็ดตัวคิงไว้ตรงนั้น

โอราฟจึงเดินไปหยิบของเหล่านั้นมา..แล้วจัดการเช็ดตัวให้คิงด้วยตนเอง เค้าพยายามที่จะเช็ดอย่างแผ่วเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้...และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้คิงตื่นจากห้วงนิทราเสียด้วยซ้ำ เมื่อเช็ดตัวคิงเสร็จ แม่ของโอราฟก็เปิดประตูเข้ามาทันที...เธอมองร่างบางที่นั่งมองคิงผ่านน้ำตา

" แม่ตอบผมสิครับ...ว่านี่อะไร? "
โอราฟเอ่ยถามมารดา ไหนว่า...ย้ายออกไปแล้วไง?

" ก็คิงไงลูก... "
เสียงมารดาเอ่ยอย่างสั่นเคลือ

" ไหนว่าเค้าไม่อยู่ที่นี่แล้วไงครับ "
โอราฟตวัดสายตามองมารดาที่ยื่นมองน้ำตาคลออยู่เลยประตูเข้ามาเพียงนิดเดียว

" แม่โกหก...เพราะคิงต้องการอย่างนี้ "
แม่โอราฟเดินไปล๊อคประตูแล้วเดินมาที่ปลายเตียง

" แล้วทำไมต้องพันผ้าบริเวณดวงตาด้วย? "

" คิง...เค้า..บริจากดวงตาให้กับเรา..โอราฟ...... "
เสียงของมารดานั้นขาดห้วงเพราะรู้สึกเสียใจ

โอราฟกั้นน้ำตาเอาไว้...แล้วเดินกอดแม่ตนเอง...ภายในจิตใจของเค้านั้นปวดร้าวขนาดไหน...ทั้งโมโหโกรธเกรี้ยวที่คิงทำแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...เค้าดีใจที่รู้ว่าคิงทำเพื่อเค้าขนาดนี้....ขนาดที่เค้าไม่คิดว่าจะมีใครสามารถทำให้เค้าได้อีกแล้วบนโลกใบนี้...

โอราฟของอยู่กับคิงเพียงลำพังโดยฟาเซลเอาไว้เบื้องล่าง...และสั่งห้ามแม่บอกเรื่องคิงกับฟาเซลเด็ดขาด...เค้าขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างโอราฟที่ยังคงหลับอยู่...มือบางลูบใบหน้านั้นอย่างรักใคร่...น้ำตาที่เก็บเอาไว้หลั่งไหลไม่ขาดสาย....สิ่งที่เค้าเผชิญตอนนี้มันหนักซะยิ่งกว่าคำว่าเจ็บปวด...มันเกินกว่านั้นไม่มากแล้วจริงๆ เพราะสิ่งที่เค้ารับรู้ตอนนี้มันทำให้เค้าทรมานและเสียใจยิ่งกว่าเมิ่อเก้าปีที่แล้ว...ที่เค้าโดนขวักลูกตาสดๆซะอีก....

" คุณทำแบบนี้ทำไม...ทำไมต้องทำขนาดนี้!!! "
โอราฟตะโกนขึ้นเพราะมันเกินแล้วที่จะทน...เหลือเกินกับความเจ็บช้ำ

" เพราะฉันอยากทำ! "
เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น...เค้าตื่นอยู่ตลอดเวลา...ตื่นเพราะรู้ว่าวันนี้โอราฟจะมา...

" ทำไมอะ!! ทำไมจะทำอะไรไม่เคยถามผมบ้างล่ะ...ว่าผมต้องการมันมั้ย!! หรือผมต้องการอะไร?!!! คุณไม่เคยเลยซักครั้งที่จะถามผม คุณเอาแต่ทำตามใจตัวเอง!! เอาแต่ใจตัวเอง..คุณมันงี่เง่า!!! "
โอราฟลุกจากเตียงแล้วตะโกนออกไปลั่นห้อง...แล้วร่างนั้นก็ทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างหมดอะไรตายอยาก!

" เพราะฉันรู้ว่านายต้องปฏิเสธ...ฉันถึงทำอย่างนี้...... "
เสียงแหบเอ่ยเรียบๆ

สำหรับคิงแล้วเค้าดีใจมากที่ร่างบางผ่าตัดปลอดภัยและมองเห็นทุกอย่างได้เป็นปกติ เค้าไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่สูญเสียเลยซักนิด...แต่กลับยินดีอย่างที่สุด....เพราะเค้าตั้งใจไว้อยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา..เพียงขอเวลาที่เค้าจะได้อยู่กับโอราฟต่อก็เท่านั้น....แต่ถ้าหากวันใดที่โอราฟมีคนที่รัก...และต้องการเค้าก็จะปล่อยไป เช่นตอนนี้....แต่ตอนนี้เค้ากลับรู้สึกไม่ต้องการให้โอราฟจากเค้าไปเลย ทำไม...นายต้องกลับมา!

" คุณเคยบอกว่า...เมื่อผมไปแล้วต้องห้ามกลับมา เพราะมันจะไม่มีครั้งที่สองที่คุณจะปล่อยผมไป..... "

" ......... "

" เพราะงั้น...คุณปล่อยผมไปไม่ได้แล้วนะครับ!! "



โอราฟเดินลงมาข้างล่างแล้วเรียกให้สาวใช้ขึ้นไปดูแลคิงที่นอนอยู่บนที่นอน...ดวงตาของคิงยังไม่หายดีนักจึงยังถูกผ้าพันแผลเอาไว้อยู่...ร่างบางมองหน้าพ่อแม่อย่างแอบเคืองเล็กที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเค้า...ทุกคนล้วนทำอะไรโดยไม่บอกเค้าเลย....เอาแต่ใจสิ้นดี!!!

" เป็นอะไรหรือเปล่า...ดูเราอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะ? "
ฟาเซลเอ่ยถามโอราฟที่เอาแต่ทำหน้าเครียดคิ้วผูกโบว์อยู่ในสวนหลังบ้า

" ครับ...ผมมีเรื่องเครียด... "
โอราฟตอบอย่างตรงไปตรงมาตามนิสั

" บอกได้มั้ย? "

" คุณรู้ใช่มั้ยว่าพี่ชายคุณเป็นคนมอบดวงตาให้กับผม?!! ทำไมล่ะ..ทำไมไม่บอกผมบ้าง...อยากทำอะไรก็ทำกัน..เห็นผมเป็นอะไร ตุ๊กตาหรือไงห้ะ!! "
โอราฟถามอย่างโกรธเกรี้ยว...!

แต่ฟาเซลเนี่ยสิ..ราวกับทุกๆอบ่างรอบด้านมันหยุดนิ่ง ตกใจเหลือเกินที่รู้ว่าดวงตาคู่นี้เป็นของพี่ชายตนเอง...พี่ชายที่เค้าคิดว่าคอยแต่ทำร้ายโอราฟ คนที่มอบแต่ความเจ็บปวดให้โอราฟ...และคนที่เห็นโอราฟเป็นแค่ที่ระบาย... ไม่คิดเลยจริงๆ...ว่าแท้ที่จริงแล้วพี่ชายตนเองจะรักและยอมเสียสละขนาดนี้เพื่อโอราฟ......

" เงียบทำไมล่ะ!! ผมถามคุณอยู่นะ...ว่าทำไมไม่บอกผมบ้าง?!! "
โอราฟยังคงจี้ด้วยความโมโห

" ฉันไม่รู้เรื่อง...ฉันไม่รู้ว่าพี่เป็นมอบดวงตาให้กับนาย.... "
ฟาเซลตอบด้วยเสียงที่สั่นเทา...เรื่องนี้มันสะเทือนใจจริงๆ

" อย่ามาโกหก!! "

" ฉันไม่ได้โกหกเธอ...ฉันไม่รู้จริงๆว่าพี่จะทำอย่างนี้.... "
ขาเรียวยาวถึงกับหมดแรงยืน...ล้มลงไปกับพื้นหญ้า...และน้ำตาของความเสียใจ....

มันเหมือน...เค้าคือต้นเหตุ เค้าขอให้คิงปล่อยโอราฟ...ซึ่งคิงได้ปล่อยโอราฟตามที่น้อยอย่างเค้าต้องการ...พร้อมกับมอบแสงสว่างให้กับชายที่รักก่อนจาก...ถ้าเค้าไม่พรากโอราฟไป...คิงก็คงไม่ทำอย่างนี้.....คิงคงไม่ต้องเป็นคนที่รับความมืดมิดแทนโอราฟ.......

โอราฟมองชายผมทองด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไม่ต่างกัน...สิ่งที่ฟาเซลแสดงทำให้โอราฟรู้แล้วว่า..,ฟาเซลไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วยจริงๆ...ฟาเซลกลายเป็นแค่คนหนึ่งที่ถูกคิงปิดหูปิดตา.....เช่นเดียวกับเค้า....คิงจะรู้มั้ยว่าสิ่งที่เค้าทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้างมากขนาดไหน.....

" คุณฟาเซล.....ผมไม่กลับไปกับคุณแล้วได้หรือเปล่า? "
ฟาเซลเงยหน้ามอง...ชายที่ตนรัก...

" ทำไม...นายไม่อยากอยู่กับฉันหรอ? "
ใจสั่นไหวหวิวยามที่ถาม

" ผมอยากอยู่ที่นี่...อยากอยู่กับพ่อ อยากอยู่กับแม่...และ.... "

" พี่คิงใช่มั้ย! นายรักพี่คิงสินะ........ "
ฟาเซลก้มหน้าพูดคำหลังเสียงแผ่ว

" ผมอยากอยู่เป็นดวงตาให้กับเค้า.......อยากดูแลเค้า อยากอยู่ใกล้ๆเค้า.....ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกคนเอาแต่ขีดเส้นให้ผมเดิน....เลือกนั่น เลือกนี่ให้กับผม...โดยที่บางทีคงลืมไปว่า...ผมเองก็เป็นคน ครั้งนี้กับชีวิตใหม่...ผมขอเลือกทุกอย่างด้วยตัวเองบ้างเถอะครับ.... "
โอราฟตอบกลับอย่างฉะฉาน...ฟาเซลมองหน้าร่างบางที่ตอบอย่างมุ่งมั่น.....นั่นสินะ...เค้าควรเป็นอิสระจากพันธณาการณ์งี่เง่าซักที...แต่ว่า..มันเจ็บนะ...!

" ได้สิ...ตามใจนาย...ฉันรั้งนายไม่ได้แล้ว "
ฟาเซลลุกขึ้นเตรียมตัวที่จะเดินไปจากตรงนี้....

" ขอบคุณครับ... "
ฟาเซลหยุดแล้วหน้าไปที่ร่างบาง

" ขอบคุณอะไรกัน....ไม่จำเป็นหรอก "

" จำเป็นสิครับ...ผมขอบคุณที่คุณเข้าใจผม ขอบคุณที่คุณรักผม...ขอบคุณที่คอยปกป้องดูแล...แม้เวลาเหล่านั้นมันจะสั้น...แต่มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีค่า....ขอบคุณที่มอบช่วงเวลาเหล่านั้นให้กับผม "
ฟาเซลยิ้มรับ...แล้วเดินเข้าไปสวมกอดร่างบาง.....

" ฉันก็ขอบคุณ...ที่นายเคยมอบความรู้สึกดีๆให้กับฉัน...ฉันรักนายนะโอราฟ...ฝากพี่ชายฉันด้วย "

" ครับ "
ฟาเซลเคลื่อนตัวออกมาเล็กน้อย...แล้วประทับจูบที่หวานล้ำเพื่อลาจาก.......


เมื่อฟาเซลจากไป..โอราฟก็เดินขึ้นมาที่ห้อง เมื่อสาวใช้เห็นก็ออกไปปล่อยให้นายทั้งสองอยู่ด้วยกัน โอราฟเข้าไปนั่งที่ข้างร่างสูง...พลางมองใบหน้านั้นอย่างหลงไหล...แล้วหยาดน้ำตาหยดน้อยๆก็ไหลรินอาบแก้มขาว...รู้สึกแย่..เศร้าและเสียใจ....

" จะร้องไห้ทำไม? "
เสียงแหบแห้งเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงหยดน้ำที่กระทบโดนตัว

" ผม...ผมเสียใจที่เป็นแบบนี้ "
โอราฟพยามยามที่จะควบคุมเสียงให้เป็นปกติ

" แต่ฉันไม่... "

" ทำไม...คุณมองอะไรไม่เห็นเลยนะ...? "

" แต่นั่นทำให้นายมองเห็น...มันคุ้มค่าแล้ว..... "
โอราฟถึงกับปล่อยโฮหนักขึ้น แล้วล้มตัวลงไปกอดคิง...

" ฟาเซลล่ะ...เค้าจะพานายกลับไปเมื่อไหร่? "
โอราฟเงยหน้าขึ้นแล้วอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง...

" คุณฟาเซลกลับไปแล้ว และผมก็จะอยู่ที่นี่..ไม่ไปไหนทั้งนั้น! "
พร้อมกับกอดคิงแน่นขึ้น

" กลับไปเถอะ...อย่ามาอยู่กับคนตาบอดอย่างฉันเลย... "
เสียงแหบแห้งเรียบเฉยยังคงเอ่ยเรียบๆ

" ที่คุณล่ะ..คุณยังอยู่กับผมทั้งที่ผมตาบอดเลย! "

" เป็นเพราะฉันต้องการหาผลประโยชน์จากนายตังหาก "

" ผมไม่สน...ผมจะอยู่ที่นี่ จะอยู่กับคุณ...!!! "
โอราฟตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงกับหน้าอกคิง

" ทำไม...นายจะมาอยู่กับคนอย่างฉันทำไม นายรักฟาเซล...ก็ไปอยู่กับฟาเซลสิ "

" ผมไม่ได้รักเค้า...ผมประชดคุณ ผมรักคุณนะคิง...ผมรักคุณอะ แล้วผมจะอยู่กับคุณ...ไม่สนว่าคุณจะไล่ผมยังไงผมก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!! "
คิงยกยิ้มอย่างพอใจ...เค้าเอื้อมมือไปลูบหัวร่างบางเบาๆ

ส่วนอีกข้าง...ก็ดึงผ้าพันแผลออก แล้วลืมตามองโอราฟที่ทำตัวขี้แยร้องไห้อยู่บนหน้าอกเค้า....ทุกอย่างมันก็แค่แผนที่เค้าต้องการดึงโอราฟคืนมาก็เท่านั้นเอง....

" โอราฟ...มองฉันสิ...... "
โอราฟจึงค่อยๆเงยหน้ามองคิง...แล้วผงะ แต่ก็ถูกคิงรั้งต้นคอลงรับจูบที่แสนหวานเสียก่อน

" ฉันก็รักนาย...และไม่มีวันที่ฉันจะปล่อยนายไปเป็นครั้งที่สอง ถึงแม้ว่า.....นายจะต้องการจากฉันไปซักเท่าไหร่ก็ตาม.... "

~TheEnd~


********************************************
เป็นไงบ้างค้ะ...กับเรื่องนี้..หนุกกันไหมเอ่ย???

เจอกันที่เพจเดธได้น้า........
Read more ...

โลกสีดำ 6

โอราฟนอนอยู่เตียงผ่าตัดอย่างหวั่นๆ หลังจากตรวจสภาพความพร้อมของเขาที่ถูกคิงเตรียมมาให้อย่างดี การดูแลที่ดีเป็นพิเศษนั่น...ก็เพื่อสิ่งนี้... ตอนนี้หมอและพยาบาลต่างก็เตรียมตัวอย่างเต็มที่ เหลือเพียงแค่ดวงตาคู่ใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เข็มที่บรรจุยาสลบอย่างแรงถูกฉีดเข้าเส้นเลือด เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทียาก็ออกฤทธิ์พร้อมกับการมาถึงของดวงตาคู่ใหม่

การผ่าตัดเดินหน้าอย่างเคร่งเครียด เพราะต้องแข่งกับเวลา...แต่ที่ดวงตาคู่นี้เพิ่งถูกผ่าตัดออกมาจากผู้บริจาคสดๆ จึงยังคงสภาพได้พอสมควร แต่นานนักก็ใช่ว่าจะดี...เพราะมันจะเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ คณะแพตย์เริ่มเจอปัญหา...เพราะเบ้าที่ถูกเย็บปิดตายมานาน เส้นประสาทต่างๆภายในดวงตาปิดตายไปเสียหมดแล้ว...พวกเค้าจึงต้องทำการกระตุ้น...ด้วยการฉีดยาบางตัวเข้าไป..แล้วจึงทำการผ่าตัด....

ด้านนอกทุกคนต่างลุ้นกับการผ่าตัดครั้งนี้มาก พวกเค่าได้แต่ภาวนาให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดีทั้งนั้น...แต่ทุกคนต่างตั้งคำถามเดียวกันขึ้นมานั่นคือ....

นี่เป็นดวงตาของใคร?

" คุณแม่ครับ...พี่คิงได้บอกมั้ยครับว่าใครเป็นบริจาคดวงตานี่มา?"
ฟาเซลหันไปถามคุณหญิงริโอร่าที่กุมมืออยู่กับมิริน่าข้างห้องผ่าตัด

" เปล่าจ้ะ...คิงบอกแค่ให้รีบส่งตัวมาผ่าตัดเท่านั้น "
คุณหญิงตอบไปตามความจริง...

ฟาเซลเมื่อรู้อย่างนั้นเค้าก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อโทรหาคิงเพื่อถาม...แต่คิงก็ไม่รับมือถือ...เค้าจึงตัดใจที่จะโทรแล้วหันไปลุ้นกับการผ่าตัดต่อ

5 ชั่วโมง....ผ่านไปอย่างยาวนาน แล้วการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อคุณหมอเดินออกมาจากห้องผ่าตัด

" เป็นไงบ้างครับหมอ? "
ฟาเซลรีบดิ่งเข้าไปถามอย่างไว

" เรียบร้อยแล้วครับ แต่ว่าต้องรอดูอีกทีนะครับว่า...จะมองเห็นได้กี่เปอร์เซ็น เนื่องจากเส้นประสาทเค้าไม่ได้รับการกระตุ้นมานาน..อาจต้องใช่เวลาที่จะมองเห็นได้เต็มร้อยน่ะครับ "
ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ และถอนหายใจอย่างโล่งอก

ทุกคนเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ของคุณหญิงริโอร่าเนื่องจากคุณหมอสั่งห้ามเฝ้า เพราะมันอาจจะเป็นการรบกวนคนไข้ มิริน่ามองฟาเซลที่เอาแต่ยิ้มร่าดีใจด้วยความรู้สึกที่อิจฉานิดๆ เธอมาที่นี่บ่อยแต่ไม่ว่าจะทำอะไรให้ฟาเซล แต่ฟาเซลก็ไม่เคยยิ้มอย่างนั้นกับเธอเลย...ฟาเซลคงรักน้องบุญธรรมคนนี้น่าดู!

' RrrrRrrr!! '
เสียงมือถือฟาเซลดังสนั่น...เค้าจึงหยิบขึ้นมาดู และรีบกดรับทันทีที่เห็นเป็นเบอร์คิง

" ครับพี่... "

( โทรมาหาพี่มีอะไรหรือเปล่า? )
คิงเอ่ยถามน้องเสียงเรียบ

" มีครับ...คือผมสงสัยว่าใครเป็นบริจาคดวงตาหรอครับพี่? "

( อ่อ...เค้าเป็นคนที่บริจาคดวงตานี่เอาไว้น่ะ แล้วเค้าเกิดเสียชีวิต แต่ดวงตาเนี่ยไม่เสียหายอะไรพี่จึงให้หมอจัดการผ่าตัดให้น่ะ "

" อ้อ...ใช้ดวงตาคนตายงั้นหรอครับ "

( ก็ใช่น่ะสิ...มีหมอที่ไหนเค้าควักลูกตาคนเป็นไปเปลี่ยนกัน... )

" ครับ...ผมอยากขอบคุณจัง แต่ก็... "
ฟาเซลเก็บคำนั้นลงคอ

( เอาหน่า...ไม่ต้องคิดมาก แล้วการผ่าตัดเป็นไงบ้าง โอเคมั้ย? )
คิงถือโอกาสถามถึงสิ่งที่เป็นห่วง

" เรียบร้อยครับพี่ ปลอดภัยดี...แต่ต้องดูอาการอีกเป็นระยะๆน่ะครับ "

( อืม...ดีแล้วๆ พี่ฝากเจ้านั่นด้วยล่ะ )

" ครับ... "

( งั้นแค่นี้นะ..พี่มีงาน )

" ครับพี่ "
แล้วฟาเซลก็กดตัดสาย

แล้วเค้าก็นั่งทานอาหารกับแม่และว่าที่ภรียาอย่างเอร็ดอร่อย เพราะสบายใจในหลายเรื่อง...ทั้งเรื่องการผ่าตัด และเรื่องที่โอราฟได้มาอยู่กับตนแล้ว หากแต่ยามมองหน้ามิริน่าเค้าก็อดเศร้าใจไม่ได้ที่ต้องแต่งงานกับเธอ ก็เค้า...ไม่ได้รักเธอนี่นา....แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้นะว่า..มิริน่าเธอเป็นคนดีมาก และสวย...น่ารัก ทั้งคำพูดกิริยามารยาท...มิริน่าช่างดีพร้อมพรรพทุกอย่าง...ยกเว้นก็แต่เขาไม่ได้รักเธอ!

.

.

.

ผ่านไปหลายอาทิตย์ งานแต่งงานของฟาเซลและมิริน่าก็มาถึง ทุกคนต่างมาเข้าร่วมยกเว้นโอราฟที่ยังคงต้องปิดตารอแผลหาดีก่อนแม้จะออกมาจากโรงบาลแล้วก็ตาม และคิงที่ปฏิเสธที่จะมาเนื่องจากติดงาน...ทุกอย่างต่างนำเนินไปอย่างราบรื่นอย่างที่ควรเป็น ฟาเซลเองก็เข้าพิธีแต่งงานนี้อย่างเชยเมยเพราะเค้าไม่รักมิริน่า..แต่เค้าก็กลับใจเต้นแรงยามที่มิริน่าเดินเข้ามาในโบสด้วยชุดเจ้าสาวที่สวยสง่า...เธอช่างเป็นเจ้าสาวที่งดงามจริงๆ

โอราฟ...แม้จะมาอยู่ที่ที่แปลกตา แต่เค้าก็ยังคงนำเนินชีวิตประจำวันเช่นที่เคยเป็น ในความนึกคิดนั้น...เค้าบอกกับตัวเองที่นี่คือห้องของเค้าที่เค้าเคยอยู่ เตียงนี่...คือเตียงของเค้าที่เค้าเคยนอน เค้าทอดสายตาไปที่มุมเดิมที่เคยเป็นหน้าต่างที่ห้องของเค้า...แต่สำหรับที่นี่..มุมนั่นเป็นกำแพงที่มีภาพวาดแขวนอยู่เท่านั้น ดวงตาคู่ที่ได้รับมาพร้อมกับอิสระ...ไม่ได้ทำร่างบางรู้สึกดีเลยซักนิด...เค้าต้องมาอยู่กับฟาเซลที่บอกรักเค้าแต่งานกับคนอื่น มันทำให้เค้ารู้สึกแย่...และการจากมาทำให้เค้ารับรู้หนึ่งสิ่ง นั่นคือ....

เค้าเฝ้ารอคิงกลับมาทุกเย็น

ประสาทสัมผัสที่ยังคงดีเยี่ยมยังคงรอคิงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ยามที่ประตูเปิดออก....เค้าปรารถนาเหลือเกินว่าจะเป็นคิง....แต่สิ่งที่รู้คือ มันไม่ใช่! คนที่เข้ามาไม่ใช่คิง...แต่มักจะเป็นคนอื่น...อย่างฟาเซล คุณหญิงริโอร่า และมีบ้างที่มิริน่าจะเข้ามาหา.....มันทำให้...โอราฟรู้สึกหดหู่อย่างที่ไม่เคยเป็น เค้าเคยเจ็บปวด...เสียใจกับอ้อมกอดนั่น...แต่ตอนนี้เค้าต้องการมันเหลือเกิน!



" อะ...ใจเย็นนะโอราฟ..ค่อยๆลืมตานะ..... "
ฟาเซลแกะผ้าพันแผลแล้วบอกกับโอราฟที่กำลังจะลืมตามองโลกภายนอกหลังจากที่เค้าไม่ได้เห็นมันมาเนิ่นนาน

เปลือกตาอันแสนหนักอึ้งค่อยๆลืมตารับแสงแดดของดวงตะวันช้าๆ เมื่อแสงเข้ามาเพียงนิดเค้าก็ต้องหรี่ตาลงเหนื่องจากแสบตามาก...แล้วร่างก็ค่อยๆปรับสภาพจนกระทั่งมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจนราวกับปาฏิหาร ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มบางๆให้คนตรงหน้า...ที่แม้ว่าไม่แนะนำตัวเค้าก็พอรู้ดีว่า...ใครเป็นใคร

ชายผมยาวสีทอง ดวงตาสีฟ้าสดใส...คงเป็นฟาเซล หญิงสาวผมสีทองรวบขึ้น ดวงตาสีฟ้าไม่ต่างจากฟาเซลและใบหน้าที่ส่อถึงอายุที่มากพอสมควร...แต่ก็ยังคงซึ่งความสวย คงเป็น..คุณหญิงริโอร่า และหญิงสาวผมยาวหยักศกสีดำขลับ..ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมที่สวยสลวย...คงเป็นมิริน่า ภรรยาของฟาเซล

" เป็นไงบ้าง...มองชัดมั้ย เบลอๆหรือเปล่า "
ฟาเซลรีบเข้ามาถามหลังโอราฟไล่มองหน้าทุกคนซักพัก

" ครับ...ชัด "
โอราฟพยักหน้าพร้อมเอ่ยตอบสุภาพ

ทุกคนในบ้านต่างดีอกดีใจที่ร่างบางมองเห็นเป็นปกติ...โดยเฉพาะฟาเซลที่โผเข้ากอดแน่น....มันช่างวิเศษเหลือเกิน..ที่โอราฟได้เห็นแสงตะวันอีกครั้ง ทั้งบ้านฉลองให้กับดวงตาใหม่ดันอย่างคึกครื้น...ต่างจากบางที่ดูซึมไป เพราะ...ที่นี่ไม่ใช่บ้านตน...ไม่ใช่ที่ๆตนเองเคยอยู่...ความไม่คุ้นชินทำให้โอราฟรู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะอยู่ต่อ..แต่จะกลับยังไง...ในเมื่อคิงไล่เค้ามาอย่างนี้

" เป็นอะไรหรอ...ไม่สนุกหรอ หรืออาหารไม่อร่อย? "
โอราฟถามอย่างเป็นห่วง

" ผม...คิดถึงพ่อแม่ "
โอราฟตอบพลางมองตาคู่สวยของฟาเซล...ใช่เค้าคิดถึงพวกท่าน คิดถึงบ้าน...และคิดถึงคิง!

" จะกลับไปเยี่ยมพวกท่านมั้ยล่ะ? "
ฟาเซลเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

" ได้หรอครับ? "

" ได้สิ...เดี๋ยวเรากลับไปเยี่ยมพวกท่านกันนะ "

" ครับ... "
ร่างบางรับคำด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

แล้วรับประทานอาหารต่อ เค้าดูมีความสุขขึ้นมามากเมื่อจะได้กลับบ้าน...ได้เห็นหน้าพ่อ หน้าแม่อีกครั้ง และ...คิงคือผู้ชายที่เค้าอยากเจอ...มากที่สุด!

ผ่านไปสามวัน...ก็ถึงเวลาที่โอราฟจะได้เดินทางกลับสู่บ้านตนเอง เค้าตื่นเต้นมาก..ใบหน้าถูกแระดับประดาด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา...รอบทางการเดินทางเรียกสายตาจากเค้าอยู่ตลอด โอราฟตื่นเต้นกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นหรือไม่ได้เห็นนาน...

" แม่ครับ!! "
โอราฟตะโกนเรียกแม่ทันทีที่ถึงบ้าน

แล้วพ่อแม่ลูกก็กอดกันกลมด้วยความปรีย์ติยินดีที่ลูกชายได้มองเห็นอีกครั้ง...โอราฟมองหน้าพ่อแม่ตัวเองด้วยน้ำตาที่นองหน้า...มากมายความรู้สึกตีตื้นขึ้นมา เค้ารู้สึกโดดเดี่ยวตลอดตั้งแต่ดวงตาถูกพรากไป แต่วันนี้...เค้าไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว...ไม่อีกแล้ว!

" พี่คิงล่ะครับ...? "
ฟาเซลเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นพี่ชายตนเอง

" เอ่อ...คือเค้า..ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วน่ะจ้ะ "
แม่โอราฟตอบ....

" อ่าว..ย้ายไปไหนล่ะครับ? "

" ไม่รู้ค่ะ... "
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหว การเจอคิงคืออีกอย่างที่เค้าปรารถนา

" ผมขอไปดูที่ห้องหน่อยได้มั้ยครับ "
โอราฟขออนุญาตขึ้นไปที่ห้องของตน อาจเพราะมันคือสถานที่ที่เค้าอยู่กับคิง...ตลอดเกือบเก้าปี่ที่ผ่านมา

เมื่อแม่พยักหน้า..โอราฟก็เดินขึ้นไปข้างบนทันที ซึ่งฟาเซลก็ไม่ได้ห้ามอะไร...คงเพราะอยากปล่อยให้โอราฟที่กำลังคิดถึงสิ่งเก่าๆอยู่ได้ซึมซับกับสิ่งที่เค้าคิดถึง...ให้นานเท่าที่ร่างบางต้องการ

เมื่อมาถึง...โอราฟก็พลักประตูเข้าไปเบาๆ แล้วกลิ่นเก่าๆที่คุ้นเคยก็ลอยมาเตะจมูก...ทำเอาน้ำตาร่วงลงกระทบพื้น...แต่ก่อนที่เค้าจะได้นึกหรือคิดอะไร ดวงตาก็ดันไปสดุดกับร่างที่นอนอยู่บรเตียงหลังใหญ่...เค้าเดินเข้าไปใกล้ๆ...แล้วทั้งโลกก็หยุดหมุน??

" คิง..... "


*******************************************


มาเจอะมาเจอกันได้น้า.....
Read more ...

โลกสีดำ 5

คิง...กำลังนั่งมองร่างบางที่นั่งพิงหัวเตียงเหม่อลอยดั่งทุกวัน วันนี้คิงหยุดงานเพื่ออยู่ดูร่างบางว่าหนึ่งวันทำอะไรบ้าง...แต่ก็ไม่มีอะไรนักเพราะโอราฟเอาแต่อยู่ในห้อง

" คุณคิงคะ...คุณหญิงริโอร่าต้องการเรียนสายค่ะ "
สาวใช้เดินเค้ามาบอกคิง คิงพยักหน้าแล้วเดินออกไปรับโทรศัพท์

" ครับ...คุณแม่ "
แม้ไม่ใช่แม่แท้ๆแต่ก็ยังคงเรียกแม่

( คิง...เด็กตาบอดที่อยู่กับเราน่ะ แม่ขอได้มั้ย )

" ไม่ได้!!! "
เพียงฟังสิ่งที่ขอคิงก็ขึ้นเสียงตอบปฏิเสธกลับทันควัน!!

( ทำไมล่ะ..แม่ขอเถอะ ให้เค้ามาอยู่ที่นี้ มาอยู่เป็นเพื่อนฟาเซล )
คุณหญิงริโอร่ายังคงเกลี้ยกล่อมต่อ เธอบังคับคิงไม่ได้...เพราะคิงไม่ใช่ลูกเธอ

" ไม่ก็คือไม่!!! คิดไงไอ้ฟาเซลถึงอยากได้นัก! "
คิงถามอย่างหัวเสีย

( เค้าอยากได้เป็นของขวัญแต่งงานน่ะ )

" ห้ะ?!! "
คิงอุทานออกมาอย่างตกใจ แต่งงานงั้นหรอ?

( ฟาเซลกำลังจะแต่งงานในไม่กี่อาทิตย์ เค้าเลยอยากได้โอราฟมาอยู่ที่นี่ )
คิงตกใจมาก...นี่แม่บังคับฟาเซลแต่งงานแน่ๆ

" งั้นสินะ...ผมขอคิดดูก่อน "
แล้วคิงก็วางสายทันที

ความปรารถนาของฟาเซลคืออะไร เดาได้ไม่ยากนักหรอก..เค้าต้องการช่วยโอราฟที่โดนตนรังแกอยู่ร่ำไปเช่นนี้ คิงเดินเข้ามาในห้อง...มองสมบัติที่ตนหวงแหน...ที่ยังคงนั่งเหม่อ....นานแล้วสินะที่เรากักขังนกตัวนี้ให้อยูแต่เพียงใต้ร่างที่มอบให้ได้แต่ความทรมาน....

" นายรักฟาเซลใช่มั้ยโอราฟ... "
เสียงเรียบนิ่งเอ่ยถาม

" ครับ...อย่างน้อยผมก็ต้องการเค้ามากกว่าคุณ "
โอราฟยังคงคำตรงไม่แปลเปลี่ยย...แม้รู้ว่าคิงโกรธจะเป็นอย่างไร

" งั้น..นายควรรู้เอาไว้ว่า....ฟาเซลกำลังจะแต่งงาน "

โอราฟถึงกับจุก...ความเสียใจแล่นปรี่ขึ้นมา ไหนว่าจะไปแล้วรีบกลับ....โกหก!! ทำไมทุกคนมีแต่คำหลอกลวง..ทำไมทุกคนถึงต้องหาแต่ผลประโยชน์จากตัวเค้า เจ็บจนทำอะไรไม่ถูก...นั่นสินะ...แค่ที่บำเรอนี่นา....

" เค้าต้องการให้นายไปอยู่ที่นู้นกับเค้า "

" ฐานะอะไร!! นางบำเรอหรอ..ไม่เอาหรอก!!! "
ความฉุนเฉียวทำเอาโอราฟกระโชกอย่างที่ไม่เคยทำและเคยเป็น!

คิง..เจ็บที่อกอย่างรุนแรงที่รู้ว่าโอราฟรักฟาเซลแค่ไหน...สิ่งที่แสดงออกมาของร่างบางนั้นชี้ชัด และตัวเค้าก็รู้ดี...ว่าทั้งคู่รักกัน คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วสินะ...ที่จะรั้งนกน้อยตัวนี้ให้อยู่กับตนต่อ เค้าควรที่จะได้รับสิ่งที่เค้าให้ไม่ได้เสียที....แม้เจ็บแทบตายก็ตาม

" นายต้องไป..เพราะฉันตัดสินใจแล้ว!!! "
คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำของคิงทำให้โอราฟรู้ทันทีว่า...เค้าไม่อาจปฏิเสธได้

คุณทำทุกวิธีเพื่อครอบครองผม...แต่แล้ว......คุณก็ไล่ผมไป

คิงเปิดประตูแล้วออกไปข้างนอก...ปล่อยให้นกน้อยอยู่ในห้องต่อไปอย่างนั้น....เค้าต้องทำอะไรบางอย่าง....บางอย่างเพื่อให้นกน้อยได้พบแสงสว่างที่หายไปซักที!



คิงเดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อคุยบางอย่าง...เมื่อคุยและเตรียมพร้อมเค้าก็กลับมาที่คฤหาสน์ สั่งคนใช้ให้เก็บเสื้อผ้าของตนและโอราฟในกระเป๋าและนำไปไว้ที่ร

" ของเก็บเสร็จแล้ว...ลุกมาแต่งตัว "
คิงเดินเข้ามาบอกโอราฟที่นั่งเหม่ออยู่บนที่นอน

" มันไม่เร็วไปหน่อยหรอ...เพิ่งบอกผมเมื่อเช้าเองนะ! "
โอราฟถามอย่างสงสัยและขุ่นเคือง อยากให้เค้าไปมากสินะ

" อย่าถามมาก! ไปแต่งตัว!! "
คิงสั่งเสร็จก็นั่งมองสาวใช้พาโอราฟไปแต่งตัว

บนรถเบ็นซ์สีครีมคันหรู...เคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ช้า บนรถมีของสัมพาระจำนวนหนึ่ง...ของคิงและโอราฟ ร่างบางนั่งนิ่งเพราะเค้ามองอะไรไม่เห็นอยู่แล้วจึงไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเค้า คิงขับรถด้วยความเร็วไม่มากนัก...มุ่งตรงสู่สถานที่ที่พิเศษสำหรับเค้าที่จะมอบให้โอราฟก่อนจาก...

รถเคลื่อนตัวเข้าบริเวณบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่งที่ปลีกวิเวกอยู่ริมทะเล...คิงเดินไปเปิดประตูฝั่งโอราฟให้...และดึงมือโอราฟออกมาอย่างแผ่วเบา ลมที่หอบเอากลิ่นธรรมชาติปะทะเข้าที่ร่างกายของโอราฟ ทำให้เค้าเผลอคลี่ยิ้มออกมาแล้วสูดลมนั่นเข้าไปจนเต็มปอด คิงทำเพียง...มองเฉยๆ

คิงพาร่างบางมานั่งเล่นที่ริมทะเล...แล้วตนเองก็ขนของที่เอามาเข้ามาในบ้าน จัดนั่นจัดนี่...ขณะที่ยังมองโอราฟอยู่...ร่างบางนั่นนั่งกอดตัวเองเพราะรู้สึกหนาวหน่อยๆ แต่ก็เพราะอากาศที่ดีและสดชื่นเค้าจึงทนหนาว

" หนาวหรอ? "
คิงพูดพร้อมโอบร่างบางจากข้างหลังเก้าอี้ ทำให้โอราฟถึงกับตกใจและใจเต้นแรงขึ้นมาเสียงอย่างนั้น

" นิดหน่อย "
คิงก้มลงไปแนบหน้ากับหน้าร่างบางที่เอ่ยประโยคเฉยชา หารู้ไม่ว่า..การที่ตนทำแบบนี้มันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวเพียงไร

" รอแป็ปนะ... "
เสียงที่แสนอ่อนโยนดังขึ้นริมหู ก่อนที่สัมผัสนั่นจะหายไป...

ความอ่อนโยนจากคุณ...งั้นหรอ?

คิงเดินไปหาผ้าคลุมไหล่หนาๆมาหนึ่งผืน แล้วนำมาคลุมให้ร่างบาง...แต่ก่อนเค้าจะคลุมเค้าอุ้มร่างบางขึ้นมาแล้วให้มานั่งตักตนเอง เค้าจับร่างเล็กให้นั่งพิงเค้าราวกับเป็นเก้าอี้มนุษย์ที่กำลังกอดเค้าอยู่

" อุ่นมั้ย? "
ร่างบางพยักหน้าหงึกๆ มันอบอุ่นมากๆเลยนี่นา....

ทั้งสองนั่งตากลมอยู่ริมทะเลจนเกือบค่ำ...โอราฟกำลังตักตวงอากาศที่แสนบริสุทธิ์อยู่ในอ้อมกอดที่เคยทำร้าย ในขณะที่คิง...กำลังตักตวงความรักจากสิ่งที่รักดั่งชีวิต!

คิงอุ้มโอราฟเข้ามาในบ้านเพราะอากาศเริ่มเย็นมากแล้ว...เค้าร่างบางจะไม่สบายเอาเสียก่อนที่จะอยู่จนครบวัน

" รอนี่นะ...จะไปทำอะไรมาให้กิน "

" ห้ะ??? "
โอราฟถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ

แต่คิงกลับไม่สนแล้วเดินเข้าครัวไป..เค้าเลือกที่จะทำข้าวต้มเพราะย่อยง่ายและทำไม่ยาก...เน้นเนท้อสัตว์เยอะเพราะต้องการให้ร่างบางดูมีชีวิตชีวากว่านี้...เพราะนี่..โอราฟผอมมากเลย

แล้วข้าวต้มกลิ่นหอมกรุ่นก็เสร็จ ถูกนำมาเสิร์ฟและถูกป้อนด้วยคิงคิงป้อนโอราฟทุกคำ..มองหน้าหวานที่เคี้ยวข้าวตุ่ยๆอย่างมีความสุข เค้าไม่เคยมีเวลามานั่งมองโอราฟอย่างนี้เลย...เพิ่งจะมานึกและมาทำเอาตอนที่เค้ากำลังจะไป...เสียเวลาที่สูญไปเสียเหลือเกิน

" อิ่มแล้วหรอ? "
คิงมองร่างบางที่ไม่ยอมกินข้าวที่เหลืออีกไม่กี่คำ

" ครับ.... "

" โอเค...เดี๋ยวอาบน้ำกัน..... "

" เอ่อ...ผมอาบเองนะ "

" ไม่!! "
คิงขึ้นเสียงใส่ร่างบางที่ปฏิเสธ และมันเป็นวิธีที่ดีที่สุด!

คิงประคองให้ร่างบางเดินขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำ...มาถึงห้องน้ำคิงก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าร่างบางทีล่ะชิ้น โอราฟถึงกับร้อนฉ่าไปทั้งหน้า...เพราะเค้ากำลังแก้ผ้าต่อหน้าคิง... คิงมองร่างบางที่ผิวพรรณดี ขาวสะอาด..ติดแค่ยังคงรอยจูบของ...ฟาเซลเอาไว้ตามร่างกาย เค้าเลือกที่จะเมินมันแล้วดึงโอราฟให้มาในอ่างน้ำ...ที่เค้าเข้าไปรออยู่ก่อนแล้ว

" น้ำเย็นไปมั้ย "
คิงที่นั่งช้อนหลังโอราฟถาม...เพราะเย็นไปเดี๋ยวโอราฟจะไม่สบาย

" ไม่ครับ...กำลังดี "
คิงพยักหน้าน้อยๆ

แล้วถูสบู่ให้โอราฟ..เค้าอดทนต่อสิ่งที่กำลังตื่นขึ้นมาอย่างสุดชีวิต เพราะคิดเอาไว้แล้วว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน เค้าตั้งใจว่าจะต้องไม่รุนแรงแบะหยาบคาย...และต้องปราศจากสิ่งที่เค้าต้องการอยู่ตอนนี้ด้วย!

" จะนอนเลยมั้ย? "
คิงใส่เสื้อผ้าให้ร่างบางหลังที่อาบน้ำเสร็จ...อย่างน้อนเค้าสามารถอดทนได้ล่ะนะ..แม้จะแทบคลั่งก็ตาม

" ครับ "

คิงจึงพาโอราฟเดินมาที่เตียง แล้วจัดที่ให้โอราฟนอน...ก่อนที่เค้าตะตามไปนอนกอดโอราฟ...พรุ่งแล้วสินะ..พรุ่งคือวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน........


เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วนการเอาใจใส่และดูแลร่างบาง โอราฟราวกับตกลงไปอยู่ในห้วงแห่งความฝันที่เคยร่ำร้องหา...ยามนี้เค้าได้รับมันแล้ว ความอ่อนโยน...ที่มีเพียงน้อยของคิง..ชายที่เค้ารักมาเนิ่นนาน........

" ครับๆ เคลื่อนจะขึ้นตอนหกโมงครับ คงจะถึงที่นู้นสายๆ อ่อ...ผมมีเรื่องที่จะขอนิดหน่อย... "
คิงหันมามองโอราฟที่นั่งอยู่ข้างแวบนึง แล้วเดินออกมา

" ผมติดต่อไปกับทางนู้นแล้ว...เมื่อเดินทางไปถึง โอราฟต้องได้รับการผ่าตัดทันที "

( เอางั้นเลยหรอจ้ะ...งี้เค้าก็มางานแต่งฟาเซลไม่ได้สิ )

" ก็คงงั้น...แต่ยังไงเค้าก็ได้ไปอยู่นู้นตามที่ฟาเซลขอหนิครับ...แต่ถ้าไม่ตกลงผมก็ไม่ให้โอราฟไป "
คิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด!

( ได้จ้ะได้...เดี๋ยวแม่จะจัดการให้เลยจ้ะ )

" ขอบคุณครับ "

คิงวางสายแล้วมองไปที่ร่างบางที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก น้ำตาหยดน้อยๆเอ่อคลอจนล่วงกระทบพื้น...ขอเพียงได้พอเธอเป็นครั้งสุดท้ายก็พอ.....

5 โมงกว่าที่สนามบิน จะมีใครเล่าจะรู้บ้างว่าจิตใจของนายทั้งคู่จะเป็นอย่างไร...ต่างเจ็บปวดกับการจากลากันแค่ไหน...หัวใจทั้งสองดวงนั้นต่างก็บอบช้ำกับการจากลาในครั้งนี้...แต่เพื่อสิ่งที่ดีกว่า...คิงจึงหยุดที่จะรั้งนกน้อยตัวนี้ไว้

" คุณอยากให้ผมไปมากใช่มั้ย? "
โอราฟหันมาถามคิงที่ยืนข้อนเค้าอยู่ข้างหลัง...คิงมองดวงหน้าที่สวยงามแต่เศร้าสร้อยนั่นด้วยใจที่จนชา....

" ใช่...นายไม่ดีใจหรือไงที่ได้อิสระแล้ว ฉันคืนปีกให้นาย...บินไปแล้วอย่าบินกลับมาที่กรงนี้อีก...เพราะมันจะไม่มีครั้งที่สอง ที่ฉันจะมอบอิสระนั้นให้กับนาย.... "
คิงทองดวงหน้านั้น...แววตาที่คลอด้วยหยาดน้ำใสๆ

เค้าปล่อยมือแล้วเดินถอยหลังออกมา...มองดวงหน้านั้นเป็นครั้งสุดท้าย...แล้วจากไป......

ถามผมมั้ย...ผมต้องการจากคุณไปหรือเปล่า...ผมต้องการอะไร..จริงๆคุณไม่เคยรู้เลย...คุณเอาแต่บังคับผมให้เดินตามเส้นที่คุณขีด...จนกระทั่งเส้นนี้...เส้นที่คุณขีดให้ผมออกจากชีวิตคุณ......

การเดินทางผ่านไปด้วยดี...มีสาวใช้ที่สนิทตามโอราฟไปอยู่ที่นู่นด้วย...ตลอดทางนั้นช่างเงียบงัน..กลิ่นอายแห่งความเศร้าลอยเอ่ยตลอดทาง...คง......ตลอดไป

ฟาเซลยืนรอร่างบางที่สนามบินอย่างใจจดใจจ่อ...เค้ายืนไปติดเลยด้วยซ้ำ ทำให้มิริน่าที่มาด้วยมองด้วยความแปลกใจกับท่าทางของว่าที่สามี ว่าจะอยากเจออะไรขนาดนั้น...แล้วสิ่งที่ฟาเซลเฝ้ารอก็มาถึง เค้ารีบวิ่งเข้าไปหาร่างบางที่ถูกสาวใช้ประคองมาอย่างดี มิริน่าถึงกับอึ้ง...เมื่อเห็นใบหน้าที่สวยหวานนั่น มันช่างงดงามยิ่งกว่ายิ่งส่วอย่างเธอเสียอีก....นี้หรอ..น้องบุญธรรม!

" เดินทางเป็นไงบ้าง? "
ฟาเซลที่เดินไปประครองร่างบางแทนสาวใช้เอ่ยถาม

" ก็ดีครับ...แล้วก็ ยินดีด้วยนะครับสำหรับงานแต่งงาน "
ร่างบางตอบ...ท่าทีเฉยชา

" รู้แล้วหรอ? "
สัหน้าคนถามนั้นดูจะวิตกไม่น้อย

" ครับ "

" ขอโทษนะ.... "

" ไม่เป็นไรครับ "

' RrrrRrrr!! '
เสียงโทรศัพท์ของฟาแซลแผดร้องขึ้รมาระหว่างสนทนา

" ครับแม่... "

( ฟาเซล..เดี๋ยวพาโอราฟไปที่โรงพยาบาลxxxนะ )

" ทำไมครับ...มีอะไร? "

( โอราฟต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่ดวงตา...คิงเค้าหาดวงตาใหม่ให้โอราฟได้แล้ว ต้องรีบผ่าตัดก่อนที่ดวงตาจะเสื่อสภาพ )
เมื่อฟังอย่างนั้น..ฟาเซลรู้สึกได้ทันทีว่า...คิงก็รักร่างบางนี้...

" ครับแม่...เดี๋ยวนี้เลยครับ "

แล้วทั้งหมดก็รีบตรงไปที่โรงพยาบาลดั่งกล่า...โดยที่โอราฟยังไม่รู้เรื่องอะไร...แต่ฟาเซลเนี่ยสิ..ดีใจจนออกนอกหน้าไปเสียแล้ว........


********************************************

เจอกันได้น้าค้า....
Read more ...

โลกสีดำ 4

ฟาเซลก้าวขาขึ้นรถลีมูซีนคันงาม ที่มารับเพื่อเดินทางไปที่คฤหาสน์หลังงามของผู้เป็นแม่ สีหน้าส่อแววกังวลอย่างห็นได้ชัด...ไหนจะเรื่องที่ถูกเรียกตัวกลับมา ไหนจะโอราฟที่จะถูกคิงแกล้งอะไรบ้างก็ไม่รู้ยามที่ตนไม่อยู่ แต่ไม่ทันที่จะครุ่นคิดอะไรได้นานนัก...รถลีมูซีนคันงามก็แล่นเข้าสู่บริเวรคฤหาสน์ พร้อมจอดเทียบกับประตูหน้า....

" สวัสดีค่ะคุณฟาเซล.... "
หัวหน้าแม่บ้านเดินออกมาต้อนรับนายอีกคนของบ้านหลังนี้พร้อมกับสั่งลูกน้องถือข้าวของฟาเซลเข้าบ้านไป

" แม่ล่ะ? "
ฟาเซลเอ่ยถามสาวใช้

" เชิญทางนี้เลยค่ะ...คุณผู้หญิงรออยู่แล้ว

แล้วฟาเซลก็เดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องที่คุณหญิงริโอร่ารออยู่ ฟาเซลรู้สึกไม่ดีราวกับมีรางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดีเอาซะเลย แต่เขายังคงบอกตัวเองว่า...ไม่มีอะไรหรอก! ไม่มีอะไร...... แล้วเพียงไม่นานก็เดินมาจนถึงห้องติดสวนหลังบ้านที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย...และกลิ่นดอกไม้นานาชนิด ตรงโซฟาลายดอกไม้สีสวยสด...พบคุญหญิงริโอร่านั่งจิบน้ำชาสบายใจ

" มาเร็วดีจังเลย... "
คุณหญิงริโอร่าเดินเข้าหาลูกชายพร้อมกับสวมกอด

" ก็คุณแม่มีเรื่องด่วนไม่ใช่หรอครับ "
คุณหญิงริโอร่าผละออกพลางลูบหน้าลูกชายแล้วจูงกันไปนั่งที่โซฟา

" ใช่จ้ะ...แม่มีเรื่องด่วนมากจะคุยกับลูก "

" เรื่องอะไรครับแม่...ถึงต้องเรียกด่วนขนาดนี้? "
ฟาเซลถามสีหน้ากังวล

" คือ...ลูกสัญญาก่อนว่าลูกจะไม่ปฏิเสธแม่ "
คุณหญิงริโอร่าพูดดัก...จนฟาเซลต้องขมวดคิ้วสงสัยยิ่งกว่าเดิม พลางขบคิดไปว่า...แม่ต้องการอะไร?

" ผมต้องรู้ก่อนว่าแม่ต้องการอะไร แล้วผมให้ได้มั้ย "
ฟาเซลเอ่ยอย่างไม่อยากรับปาก

" ไม่...ลูกต้องรับปากแม่ก่อน ว่าลูกจะไม่ปฏิเสธแม่! "

" ทำไมล่ะแม่...ถ้าผมรับปากแล้วทำไม่ได้ล่ะ!! "

" ไม่ได้ลูกก็ต้องทำให้แม่! "

" อ่า...แม่อย่าเอาแต่ใจอย่างนี้สิครับ "
ฟาเซลเริ่มส่ออาการเหนื่อยใจ

" รับปากแม่มาก่อน! ไม่งั้นแม่ไม่ยอมให้เราไปอยู่กับคิงแล้วนะ!! "
คุณหญิงริโอร่ายื่นคำขาด...ฟาเซลถึงกับเครียดหนัก! เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่แม่ต้องการคืออะไร...แถมถ้าไม่รับปากเขาก็ไม่ได้กลับไปหาโอราฟอีก!

" ครับ...ผมรับปาก "
สุดท้ายก็จำยอมจนได้ คำรับปากเรียกรอยยิ้มจากคุณหญิงริโอร่าได้เป็นกอง

" สัญญาแล้วนะ! "

" ครับ "

" โอเคร...อีกสามเดือนเราต้องเข้าพิธีสมรสกับมิริน่า..ลูกสาวคนเดียวของท่านฑูตสหรัส ที่แม่คุยเอาไว้เรียบร้อย!!! "

" ห้ะ!!!! "
ฟาเซลลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมาอย่างตกใจ ทำให้คุณหญิงริโอร่าทำสีหน้าไม่พอใจ

" ฟาเซล!! "
เมื่อคุณหญิงริโอร่าเริ่มแสดงท่าทีเอาจริง...ฟาเซลจึงต้องสงบอารมณ์แล้วนั่งลง

" แต่แม่... "
ฟาเซลพยามจะคัดค้าน

" ไม่มีแต่...ลูกสัญญาแล้วว่าลูกจะแต่งงาน! แล้วงานนี้ลูกห้ามหนีห้ามปฏิเสธ...ไม่งั้นเราขาดกัน!!! "
คำที่ยืนยันความเด็ดขาดของผู้เป็นแม่เล่นเอาเฟลกุมขมับ นั่งเครียด...เพียงลำพัง

" แต่งงานงั้นหรอ... "



ตกเย็น...คุณหญิงริโอร่าถึงกับเข้าครัวเพื่อคุมการตระเตรียมอาหารอย่างใกล้ชิดเพื่อต้อนรับมิริน่ากับครอบครัวที่จะเข้ามาทานอาหารค่ำด้วยกัน อีกนัยน์นึงก็คือ...เพื่อให้มิริน่าและฟาเซลได้ทำควาทสนิทสนมและคุ้นเคยกันนั่นเอง! แต่ดูท่า...ฝ่ายชายจะดูไม่เต็มใจกับการรับประทานอาหารค่ำในครั้งนี้เอาเสียเลย! เพราะเค้าเอาแต่ทำหน้าตาเครียดและหมกตัวอยู่แต่ในห้อง!

ใจของเค้านั้นช่างกระวนกระวายถึงโอราฟ..ชายที่ตนรัก เป็นห่วงและโหยหา...เป็นที่สุด...ยามนี่..โอราฟจะกินอะไรหรือยัง พักผ่อนพอมั้ย...พี่คิงจะกลั่นแกล้งและทำร้ายโอราฟอีกหรือเปล่าหลากหลายคำถาม...ที่มากมายเต็มไปหมด! ความเครียดทำเอาฟาเซลปวดหัวตุ้บ...แม้รู้ว่าควรหยุดคิด...แต่จะทำยังไงในเมื่อ...คนนั้นคือคนรักทั้งคน!

" เป็นอะไรลูก.... "
คุณหญิงริโอร่าเปิดประตูเข้ามาเห็นลูกชายนอนก่ายหน้าผากก็เข้ามาเพื่อดู

" ผม...ไม่อยากแต่งงาน "
ความจริงในใจถูกเปร่งออกมาอย่างไม่คิดรั้ง

" แต่ลูกก็ต้องแต่ง...ลูกสัญญากับแม่แล้วนะ "

" งั้นผมขออะไรอย่างได้มั้ยแม่ "

" อะไรล่ะ...ถ้าไม่ใช่เรื่องยกเลิกงานแต่ง...แม่ยอมหมดเลย "
ด้วยความที่คุณหญิงริโอร่ารักลูกชายคนนี้มาก...เค้าจึงยอมให้ทุกอย่าง...และที่ผ่านมาฟาเซลก็แทบไม่เคยขออะไรเลย

" มีเด็กคนนึงที่อยู่กับพี่คิง...เค้าตาบอดครับ ผมต้องการอุปการะเค้า...ได้มั้ยแม่ อุปการะในฐานะ...น้องบุญธรรม "
คำว่าน้องนั้น...ช่างกล้ำกลืนฝืนทนที่จะพูดออกไปเป็นอย่างมาก! เพราะใจจริงนั้นตัวเองต้องการโอราฟในฐานะอะไร...ก็รู้อยู่

" ได้สิ...แม่จะจัดการให้ แต่เราต้องทำตัวดีๆและทำให้มิริน่าประทับใจนะจ้ะ...ไม่งั้นแม่ไม่ยอม "

" ครับ! "
เสียงที่ตอบรับนั้นดูจะแข็งขันขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด...อย่างน้อยๆนี่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยโอราฟได้....

ฟาเซลดูอารมณ์ดีขึ้นมาผิดหูผิดตา...และเมื่อคุณหญิงริโอร่าได้เดินออกไปแล้วนั้น เขาก็รุดไปแต่งตัวเพื่อจะลงไปรับประทานอาหารค่ำที่จะมีขึ้นในอีกสามสิบนาทีข้างหน้า..การลงไปตอนรับก่อนนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ดี...แม้ไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก..แต่ด้วยความที่ต้นตระกูลต่างสอนลูกหลานมาดี...จึงไม่แปลกอะไรที่เบื้องหน้าของพวกเค้านั้นจะดูไร้ที่ติ แม้ภายใน...กำลังแยกเขี้ยวอยู่ก็ตาม!

**************************************

Read more ...